ในรอบสอง ลุ้นรับกล้อง canon 500D ฟรี อีก 1 รางวัล เริ่มส่งภาพตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - |
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ประกาศผลผู้ชนะภาพถ่ายสวนสนุก “Singha Global Carnival” (รอบแรก)
วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ประกวดภาพถ่าย สื่อนก สื่อสันติภาพ
เทศบาลนครยะลา ขอเชิญประชาชนทั่วไป ส่งภาพเข้าประกวดในหัวข้อ "สื่อนก สื่อสันติภาพ" โดยภาพที่ส่งประกวด จะต้องเป็นภาพที่ถ่ายจากบริเวณสวนขวัญเมือง และบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา หรือภายในเขตเทศบาลนครยะลา ชิงเงินรางวัลกว่า 10,000 บาท
1. จุดถ่ายภาพ บริเวณสวนขวัญเมือง, บริเวณศูนย์เยาวชนฯ และภายในเขตเทศบาลนครยะลา
4 มีนา ซ้อมใหญ่นกเขาชวาเสียง ที่สวนขวัญเมือง
6 - 7 มีนาคม 2553 การแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน ที่สวนขวัญเมือง
6 - 7 มีนาคม 2553 การแข่งขันนกกรงหัวจุก ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
2. ลักษณะของภาพ
- สื่อให้เห็นความผูกพันระหว่างคนกับนก หรือนกกับสันติภาพ วิถีชีวิตชาวชวาวงศ์ และผู้เล่นนกกรงหัวจุก
3. คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด
- ประชาชนทั่วไป
4. รายละเอียดการประกวด
- กล้องชนิด Digital หรือกล้องที่ใช้ฟิล์ม
5. กติกาการประกวด
- ภาพที่ส่งประกวด จะต้องเป็นภาพที่ถ่ายจากบริเวณสวนขวัญเมือง และบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาหรือภายในเขตเทศบาลนครยะลา จะต้องเป็นภาพสี ต้องอัดขยายลงบนกระดาษขนาด 5 x 7 นิ้ว หรือ 8 x 10 นิ้ว พร้อมส่ง File รูป หรือ ฟิล์ม ลงบนแผ่น CD รายละเอียดไม่น้อยกว่า 5 ล้าน Pixels ส่งมาพร้อมกับผลงานที่เข้าประกวด คณะกรรมการจะพิจารณาจากภาพที่ปรากฏบนภาพอัดขยายเท่านั้น
- ส่งภาพได้คนละไม่เกิน 10 ภาพ ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
- ภาพที่ส่งเข้าประกวด ห้ามตกแต่งดัดแปลงภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ด้านหลังระบุเลขจำนวนของภาพ
ชื่อภาพ ชื่อผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
- ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด ถือเป็นลิขสิทธ์ของเทศบาลนครยะลา สามารถที่จะนำไปเผยแพร่ตามสื่อ
ต่าง ๆ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าของภาพได้โดยสิทธิ์อันชอบธรรม
6. รางวัลการประกวด
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินสด 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รองชนะเลิศ อันดับ 2 เงินสด 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รางวัลชมเชย 3 รางวัลๆ ละ 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
7. สถานที่รับภาพ
ส่งภาพด้วยตัวเองหรือทางไปรษณีย์ที่ ห้องประชาสัมพันธ เทศบาลนครยะลา 10 ถ.สุขยางค์ อ.เมือง
จ.ยะลา 95000 โทรศัพท์ 073 - 223666 ภายในวันที่ 4 - 16 มีนาคม 2553
8. ตัดสินภาพถ่าย
ตัดสินภาพถ่าย วันที่ 19 มีนาคม 2553 และจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ณ บริเวณอุทยานการเรียนรู้ยะลา
(TK Park ยะลา) พิธีมอบรางวัล วัน เวลาและสถานที่ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง กำหนดรับภาพถ่ายคืน ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2553 เป็นต้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ห้องประชาสัมพันธ์ เทศบาลนครยะลา
โทรศัพท์ 073 - 223666, 087 - 3929194
ที่มา : http://thailandphotocompete.blogspot.com/http://www.yalacity.go.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=329&Itemid=70
4 มีนา ซ้อมใหญ่นกเขาชวาเสียง ที่สวนขวัญเมือง
6 - 7 มีนาคม 2553 การแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน ที่สวนขวัญเมือง
6 - 7 มีนาคม 2553 การแข่งขันนกกรงหัวจุก ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
- สื่อให้เห็นความผูกพันระหว่างคนกับนก หรือนกกับสันติภาพ วิถีชีวิตชาวชวาวงศ์ และผู้เล่นนกกรงหัวจุก
- ประชาชนทั่วไป
- กล้องชนิด Digital หรือกล้องที่ใช้ฟิล์ม
- ภาพที่ส่งประกวด จะต้องเป็นภาพที่ถ่ายจากบริเวณสวนขวัญเมือง และบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาหรือภายในเขตเทศบาลนครยะลา จะต้องเป็นภาพสี ต้องอัดขยายลงบนกระดาษขนาด 5 x 7 นิ้ว หรือ 8 x 10 นิ้ว พร้อมส่ง File รูป หรือ ฟิล์ม ลงบนแผ่น CD รายละเอียดไม่น้อยกว่า 5 ล้าน Pixels ส่งมาพร้อมกับผลงานที่เข้าประกวด คณะกรรมการจะพิจารณาจากภาพที่ปรากฏบนภาพอัดขยายเท่านั้น
- ส่งภาพได้คนละไม่เกิน 10 ภาพ ผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีสิทธิได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
- ภาพที่ส่งเข้าประกวด ห้ามตกแต่งดัดแปลงภาพด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ด้านหลังระบุเลขจำนวนของภาพ
ชื่อภาพ ชื่อผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
- ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด ถือเป็นลิขสิทธ์ของเทศบาลนครยะลา สามารถที่จะนำไปเผยแพร่ตามสื่อ
ต่าง ๆ โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าของภาพได้โดยสิทธิ์อันชอบธรรม
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินสด 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รองชนะเลิศ อันดับ 2 เงินสด 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
- รางวัลชมเชย 3 รางวัลๆ ละ 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
ส่งภาพด้วยตัวเองหรือทางไปรษณีย์ที่ ห้องประชาสัมพันธ เทศบาลนครยะลา 10 ถ.สุขยางค์ อ.เมือง
จ.ยะลา 95000 โทรศัพท์ 073 - 223666 ภายในวันที่ 4 - 16 มีนาคม 2553
ตัดสินภาพถ่าย วันที่ 19 มีนาคม 2553 และจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย ณ บริเวณอุทยานการเรียนรู้ยะลา
(TK Park ยะลา) พิธีมอบรางวัล วัน เวลาและสถานที่ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง กำหนดรับภาพถ่ายคืน ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2553 เป็นต้นไป
ได้ที่ห้องประชาสัมพันธ์ เทศบาลนครยะลา
โทรศัพท์ 073 - 223666, 087 - 3929194
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ผล การประกวดภาพถ่าย นานาชาติ ครั้งที่ 6 หัวข้อ “ฅน” เนื่องในงานวันนริศ ประจำปี 2553
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
| ||||||||||||
ผลงานคัดเลือกร่วมแสดง http://www.photo.su.ac.th/Naris%20days.pdf | ||||||||||||
การประกวดภาพถ่าย ในกิจกรรมถนนคนเดินแม่สาย หัวข้อ “ถนนคนเดินแม่สาย”
หลักการและเหตุผล
กิจกรรมถนนคนเดินเหนือสุดยอด ของดีเมืองแม่สาย จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาครบ 2 ปีแล้วและกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ด้วยกระแสตอบรับกิจกรรมเป็นอย่างดียิ่ง สังเกตได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น ทั้งในแม่สาย และในฝั่งเมียนม่าร์ที่มาร่วมกิจกรรมทุกครั้ง ในวันเสาร์ของสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน จนใครๆที่มาแล้วต้องเอ่ยชมว่า “นี่แหละถนนคนเดินที่อยู่เหนือสุดสยาม นี่แหละถนนคนเดินที่สั้นที่สุด นี่แหละถนนคนเดินที่ติดกับพรมแดนมากที่สุด และนี่แหละถนนคนเดินที่อยู่ปลายสุดบนถนนพหลโยธิน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองแม่สาย
2. เพื่อทำให้เศรษฐกิจในเมืองแม่สายดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้
3. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองแม่สายและกิจกรรมถนนคนเดินแม่สายให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ผู้มีสิทธิเข้าร่วมการประกวดภาพถ่าย
ประเภทประชาชนทั่วไป (ไม่จำกัดอายุ)
กำหนดการ
1. เปิดรับส่งภาพถ่ายเข้าประกวดตั้งแต่วันนี้ ถึงวันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2553
ณ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย หรือทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
2. การตัดสินของคณะกรรมการจะดำเนินการ ณ อาคารสำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย
3. ประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลทางโทรศัพท์ และปิดประกาศพร้อมแสดงภาพผลงานนิทรรศการในกิจกรรม
วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553
กติกา
1. ภาพที่ส่งเข้าประกวด จะต้องเป็นภาพ “กิจกรรมถนนคนเดินแม่สาย” เท่านั้น สามารถถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของกิจกรรมถนนคนเดินได้อย่างสวยงาม น่าประทับใจ
2. ภาพที่ส่งเข้าประกวดเป็นภาพสี ขนาดด้านกว้าง 8 นิ้ว ด้านยาว 12 นิ้ว (8 x 12นิ้ว) พร้อมแนบฟิล์มภาพถ่าย (กล้องฟิล์ม) หรือแนบไฟล์ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านพิกเซล (ภาพจะมีการตกแต่งหรือไม่ตกแต่งภาพก็ได้ เน้นสวยงาม น่าประทับใจ ดึงดูดความสนใจจากผู้ที่ได้ชมภาพได้)
3. ส่งภาพประกวดได้ไม่เกินคนละ 3 ภาพ เท่านั้น
4. ทุกภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเขียนชื่อภาพ พร้อมคำบรรยาย ในการถ่ายภาพ
5. ด้านหลังระบุชื่อผู้ถ่ายภาพ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ สถานที่ถ่ายภาพ
6. ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายโดยผู้ส่งเข้าประกวดเท่านั้นหากพิสูจน์ได้ภายหลังว่า ผู้ส่งเข้าประกวดไม่ได้เป็นเจ้าของผลงาน ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ในการจะเรียกรางวัลที่ได้รับไปแล้วกลับคืนหรือตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล
7. ผู้จัดมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์ภาพที่ส่งเข้าประกวดเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่กิจกรรมของการจัดประกวด และกิจกรรมอื่นๆ โดยไม่หวังผลกำไรและไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าของภาพ
8. การตัดสินจะกระทำโดยเปิดเผยและยุติธรรม โดยให้คะแนนตามมาตรฐานสากล
9. ผู้ได้รับรางวัลมีสิทธิ์รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว ภาพที่ส่งเข้าร่วมประกวดถือเป็นลิขสิทธิ์ของเทศบาลตำบลแม่สาย
10. ผู้ได้รับรางวัลต้องส่งมอบฟิล์มหรือไฟล์ต้นฉบับก่อนรับรางวัลถ้าไม่ส่งต้นฉบับผู้ส่งภาพจะถูกตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล
11. ภาพที่ส่งประกวดทุกภาพถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัดการประกวดจะไม่ส่งคืนให้
12. ผู้ส่งภาพประกวดทุกท่าน ยินยอมปฏิบัติตามกติกาที่ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ และผลการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
รางวัล
1. รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 3,000.- บาท
2 . รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 2,500.- บาท
3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 2,000.- บาท
4. รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร พร้อมเงินสด 1,000.- บาท
พิธีมอบรางวัลและจัดนิทรรศการ
จะจัดพิธีมอบรางวัล และแสดงนิทรรศการภาพในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553
ในกิจกรรมถนนคนเดินเหนือสุดยอด ของดีเมืองแม่สาย ณ บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สาย
สถานที่ส่งภาพ: งานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดเทศบาล สำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย
68 หมู่ 8 ถนนพหลโยธิน ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 57130
โทร: 053-731288, 053-732828-9 โทรสาร: 053-731288
www.maesai.go.th
ประกวดภาพถ่ายงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ประจำปี 2553 “มหัศจรรย์พนมรุ้ง”
ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด
- ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีใจรักและสนใจการถ่ายภาพ ไม่จำกัดคุณสมบัติของกล้องถ่ายภาพ
กติกาการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด จำนวน 5 ภาพ ต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความงดงามและเอกลักษณ์โดดเด่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปราสาทพนมรุ้ง
2. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นภาพสี ขนาดภาพด้านกว้าง 12 นิ้ว ด้านยาว 18 นิ้วถ่ายจากกล้องฟิล์มสามารถอัดขยายจากต้นฉบับที่เป็นฟิล์ม ฟิล์มไสลด์หรือถ่ายจากกล้องดิจิตอล ที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 6 ล้านพิเซล โดยผู้ส่งเข้าประกวดห้ามตัดต่อภาพ แต่สามารถตกแต่งภาพได้บ้าง โดยไม่ผิดไปจากความเป็นจริง
3. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องติดบนการ์ดแข็งสีดำ กำหนดให้เหลือขอบภาพโดยรอบด้านละ 2 นิ้ว พร้อมคำบรรยายใต้ภาพ ด้านหลังระบุชื่อ-สกุลผู้ถ่ายภาพ ระบุที่อยู่ตามกฎหมายที่ตรวจสอบได้ เพื่อยืนยันความถูกต้องหรือที่อยู่ที่ติดต่อได้โดยสะดวกและสถานที่ถ่ายภาพ ชื่อภาพรูปแบบการถ่ายภาพและลักษณะของภาพ
4. ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด ต้องลงทะเบียนสมัครพร้อมส่งภาพถ่าย ฟิล์มหรือไฟล์ต้นฉบับบันทึกลงแผ่น CD-R เป็น ไฟล์ JPEG จำนวนหนึ่งภาพต่อหนึ่งแผ่น
5. ภาพที่ส่งเข้าประกวด ต้องถ่ายโดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดเท่านั้น ต้องเป็นภาพถ่ายที่ไม่เคยเผยแพร่ในที่สาธารณะ ไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใด ๆ มาก่อน หากพิสูจน์ได้ภายหลังว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดกระทำผิดเงื่อนไขข้างต้น ผู้จัดการประกวดสงวนสิทธิ์ในการเรียนรางวัลที่ได้รับไปแล้วกลับคืนหรือตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล
6. คณะกรรมการตัดสิน มีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน โดยยึดถือแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากลและผลการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด
7. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดทุกภาพ รวมทั้งฟิล์มหรือไฟล์ต้นฉบับให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัดการประกอบ โดยสงวนสิทธิ์ไม่ส่งคืนแก่ผู้ส่งภาพเข้าประกวดและผู้จัดการประกวดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ได้รับรางวัลหรือไม่ก็ตาม โดยผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดคงมีกรรมสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 18 มีสิทธิ์ในการแสดงตัวว่าเป็นผู้สร้างสรรค์งาน และมีสิทธิ์ในการห้ามไม่ให้ผู้อื่นเอางานของตนไปดัดแปลงให้เกิดความเสียหายแกชื่อเสียงของผู้สร้างสรรค์งานตลอดไป
8. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดทุกคน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ หากฝ่าฝืนจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าประกวดหรือรับรางวัล รวมทั้งผู้จัดการประกวดอาจเรียนรางวัลที่ได้รับไปแล้วกลับคืน
9. คณะกรรมการตัดสินและคณะกรรมการดำเนินงานการประกวดภาพถ่าย ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด
กำหนดการส่งภาพเข้าประกวดและการตัดสิน
1. เปิดรับสมัครในวันที่ 5 มีนาคม 2553 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยสมัครด้วยตนเอง ณ กองประกวดภาพถ่ายบริเวณการจัดงาน “มหัศจรรย์พนมรุ้ง” อุทยานประวัติศาสตร์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
2. ส่งภาพเข้าประกวดในวันที่ 27 มีนาคม 2553 ก่อนเวลา 17.00 น. ณ กองประกวดภาพถ่ายบริเวณการจัดงาน “มหัศจรรย์พนมรุ้ง” อุทยานประวัติศาสตร์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
3. ประกาศผลการตัดสินและแสดงภาพด่ายในวันที่ 28 มีนาคม 2553 เวลา 17.00 น. กองประกวดภาพถ่ายบริเวณการจัดงาน “มหัศจรรย์พนมรุ้ง” อุทยานประวัติศาสตร์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
การพิจารณาคัดเลือกและตัดสินภาพถ่าย
การตัดสินไม่มีการแบ่งประเภท พิจารณาจากคุณค่าของผลงานเป็นหลัก คณะกรรมการฯ มีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน การตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุดจะอุทธรณ์มิได้ และจะพิจารณาคัดเลือกเฉพาะผลงานที่มีคุณภาพและเหมาะสมเท่านั้น
รางวัล
รางวัลมีทั้งสิ้น 5 รางวัล แบ่งเป็น
1. รางวัลที่ 1 จำนวนหนึ่งรางวัล จะได้รับเงิน 10,000 บาท
2. รางวัลที่ 2 จำนวนหนึ่งรางวัล จะได้รับเงิน 5,000 บาท
3. รางวัลที่ 3 จำนวนหนึ่งรางวัล จะได้รับเงิน 3,000 บาท
4. รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล จะได้รับเงินสดรางวัลละ 1,000 บาท
คณะกรรมการคัดเลือกและตัดสิน ประกอบด้วย
1. นายพงษ์ศักดิ์ อินทรทัต ประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
2. อาจารย์สนาม จันทร์เกาะ ศิลปินดีเด่น
3. ผศ.มิตรธิศาล อื้อเพชรพงษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
4. อาจารย์สมเกียรติ เสียงวังเวง ประธานกลุ่มศิลปินเมืองแป๊ะ
5. นายนรินทร์ ไชยวรณ์ ช่างภาพอิสระ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายนรินทร์ ไชยวรณ์ โทร.08-6257-8646
Link: http://www.buriramguide.com/news_detail.php?news_id=1009&cate_id=1
ประกวดอัลบั้มภาพถ่ายเดือนแห่งความรัก
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ผลการประกวดภาพถ่ายสารคดีประจำปี ๒๕๕๒ “เปลี่ยนโลกได้ด้วยใจอาสา”
หลังจากที่โครงการประกวดภาพถ่ายสารคดี “เปลี่ยนโลกได้ด้วยใจอาสา” โดยความร่วมมือของนิตยสาร สารคดี และ เรดบูล สปิริต โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ได้เปิดรับภาพเข้าประกวดตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา มีภาพส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น ๑,๒๓๒ ภาพ จากจำนวนผู้ส่งภาพ ๒๐๔ คน มีภาพผ่านเข้ารอบตัดสิน ๑๑๖ ภาพ คณะกรรมการตัดสินภาพได้มีคำตัดสินเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังต่อไปนี้

รางวัลที่ ๑ เงินรางวัล ๕๐,๐๐๐ บาท
ชื่อภาพ : ผ้าห่มกาย เพื่อห่มใจ
กนกพรรณ สุพิทักษ์

รางวัลที่ ๒ เงินรางวัล ๓๐,๐๐๐ บาท
ชื่อภาพ : อาสาสมัครตัดผมใน ร.พ. ๐๒
เสกสรร หวังใจสุข

รางวัลที่ ๓ เงินรางวัล ๒๐,๐๐๐ บาท
ชื่อภาพ : ทันตแพทย์อาสา คืนรอยยิ้มสดใสให้น้อง ๔
หรรษา ตั้งมั่นภูวดล
รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล รับสิทธิ์เป็นสมาชิกนิตยสาร สารคดี ๒ ปี (๒๔ ฉบับ)

ชื่อภาพ : รวมใจ ปลูกป่า ช่วยโลก ๓
มานิต ลาภลือชัย

ชื่อภาพ : รวมพลคนรักแม่น้ำเพชร
อัครายชญ์ เพ็ชร์อำไพ

ชื่อภาพ : สามัคคีชาวเล
ชนะศักดิ์ ชุมนุมวรรณ

ชื่อภาพ : ช่วยกันตัดอวนช่วยชีวิตปะการัง
สิริพร มหาสุคนธ์

ชื่อภาพ : สานไม้ไผ่ จากใจหลายๆ ดวง
นฤดม ทิมประเสริฐ

ชื่อภาพ : เรดบูลสปิริต ๐๐๑
สุรีย์ พึ่งฉ่ำ

ชื่อภาพ : ร่วมมือ ร่วมใจ
ณัฐพงษ์ คำรักเกียรติเจริญ

ชื่อภาพ : จิตอาสา ๓๐
สัญชัย บัวทรง

ชื่อภาพ : คนละไม้ คนละมือ
เอกลักษณ์ ชนะศัตรู

ชื่อภาพ : ช่วยหลวงตา
เอกชัย ทิพย์ประเสริฐ
ที่มา: http://www.bpsthai.org
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
โครงการประกวดภาพถ่าย “คนลำปางรักอ่าน”
การอ่านมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมนุษย์ตั้งแต่มนุษย์สามารถคิดค้น ประดิษฐ์ตัวอักษร เพื่อบันทึกเหตุการณ์ บอกเล่าความรู้สึก สิ่งที่ค้นพบ
จนเป็นองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง ถ่ายทอด แพร่หลายกระจายไปยังเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติต่างๆทั่วมุมโลก เกิดการวิวัฒนาการ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ทุกแง่
ทุกมุม ทุกมิติ ทุกทวีป จนเห็นอยู่ทุกวันนี้
การอ่าน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญของคน
การอ่าน จึงทำให้เกิดคอมพิวเตอร์,Yahoo, Google
การอ่าน นำไปสู่การพัฒนาสารพัดสิ่งในโลกมนุษย์
การอ่าน นำไปสู่ความสำเร็จและความก้าวหน้า
การอ่าน นำไปสู่ความสุขและสุขภาวะของทุกคน
เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่าน มูลนิธิโยนก จึงร่วมมือกับชมรมถ่ายภาพนครลำปาง และร้านภาพงาม
จัดการประกวดภาพถ่าย “คนลำปางรักอ่าน” ขึ้น เพื่อบันทึกภาพประทับใจที่สร้างแรงบันดาลใจให้รัก การอ่าน
รวมถึงการนำภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลไปใช้ในกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอ่านต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อประกวดภาพถ่ายอิริยาบถต่างๆ ทั้งของบุคคล ครอบครัว กลุ่มสมาชิกชมรม ฯลฯ ที่ได้พบเห็นแล้วเกิดความประทับใจ ชื่นชม
และสร้างแรงบันดาลใจในการอ่าน
2. เพื่อนำภาพที่ได้รับการคัดเลือกไปเผยแพร่ รณรงค์ส่งเสริมการอ่าน
ประเภทการแข่งขัน
1. นักเรียนระดับประถมศึกษา
2. นักเรียนระดับมัธยมศึกษา
3. นักศึกษาระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
คุณสมบัติผู้ส่งผลงานเข้าประกวด และเงื่อนไขการส่งผลงาน
1.สถานที่ถ่ายภาพ ให้เป็นในจังหวัดลำปางเท่านั้น อาทิ ในบ้าน ในสวน ในโรงเรียน ห้องสมุด ร้านหนังสือ สวนสาธารณะ
วนอุทยาน สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน (รวมถึงในขณะเดินทาง) ที่สาธารณะต่างๆ เช่น คลินิก โรงพยาบาล
สถานที่ราชการ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ วัด ตลาด (ฯลฯ)
2.ผลงานที่ส่งเข้าประกวดให้จัดส่งเป็นภาพสี ขนาด 8*12 นิ้ว ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล
พร้อมติดลงบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด (พีพีบอร์ด) สีดำ ขนาด 16*20 นิ้ว พร้อมรายละเอียดดังนี้
2.1 ติดภาพโดยเว้นขอบบนระยะ 2 นิ้ว เว้นขอบด้านข้างข้างละ 4 นิ้ว และขอบล่างตามความเหมาะสม
และสวยงาม ห้ามทำกรอบตกแต่งใดๆทั้งสิ้น
2.2 ด้านล่างของภาพ ให้ใช้กระดาษสีขาว พิมพ์ข้อความระบุข้อมูลต่อไปนี้ (อย่างน้อย 3 บรรทัด)
-ชื่อผลงานภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด
-สถานที่ถ่ายภาพ
-คำอธิบายแนวคิดของการถ่ายภาพ เทคนิคการถ่ายภาพ และบรรยายความประทับใจของภาพ
2.3 ด้านหลังแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด ให้ติดชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และกรณีส่งเข้าประกวดในระดับนักเรียนประถมศึกษา
และมัธยมศึกษา ให้เพิ่มเติมชื่อสถาบันการศึกษาและระดับชั้นที่กำลังศึกษาอยู่ด้วย
ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดสามารถนำไฟล์ภาพไปอัดขยายได้ที่ร้านภาพงามโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น(ดูรายละเอียดในหัวข้อสถานที่อัดขยายภาพ)
3.ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องส่งภาพถ่ายพร้อมแนบไฟล์โดยบันทึกใส่แผ่น CD ที่มีขนาดความละเอียดของภาพไม่ต่ำกว่า 8 ล้านพิกเซล
4.ภาพที่ใช้ในการส่งเข้าประกวดจะต้องไม่เคยรับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน
โดยผู้เข้าร่วมประกวดสามารถปรับสี ตกแต่งแก้ไขเพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้ภาพถ่ายจะต้องแลดูเป็นธรรมชาติเหมือนถ่ายภาพปกติ
ไม่ผิดไปจากความเป็นจริง โดยการพิจารณาจะยึดคำตัดสินของคณะกรรมการเป็นที่สิ้นสุด
5.ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตนเองห้ามมิให้นำผลงานผู้อื่นส่งเข้าประกวด หรืออ้างชื่อผู้อื่นส่งผลงานเข้าประกวด
ผู้เข้าร่วมประกวด 1 คนสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ไม่เกิน 2 ภาพ และมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น
สำหรับผู้ส่งภาพเข้าประกวดระดับนักเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
จะต้องแนบเอกสารรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษาจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน
6.ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด อาจถูกนำไปแสดงบนเว็บไซต์ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ ผู้จัดการประกวดไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ
สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์จากบุคคลที่สาม
7.ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิโยนก และมูลนิธิมีสิทธิ์คัดเลือกนำไปจัดแสดงในที่ต่างๆ
และมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานในเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภทเพื่อใช้ในกิจกรรมรณรงค์เสริมการอ่าน
8.การส่งภาพเข้าประกวด ให้ถือว่าเจ้าของภาพตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้างต้น
ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และกติกาตามความเหมาะสม
ระยะเวลา
ส่งผลงาน 8 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2553
คณะกรรมการพิจารณาตัดสิน 10-12 มีนาคม 2553
ประกาศผล 15 มีนาคม 2553
พิธีมอบรางวัล 2 เมษายน 2553
การจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย “คนลำปางรักอ่าน” 2-4 เมษายน 2553
รางวัล
ผู้ชนะการประกวดทุกระดับจะได้รับรางวัล ดังนี้
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 5,000 บาท และประกาศนียบัตร
รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 3,000 บาท และประกาศนียบัตร
รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 2,000 บาท และประกาศนียบัตร
สถานที่อัดขยายภาพ
ร้านภาพงาม เลขที่ 145 ถ.บุญวาทย์ ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
โทร. 054-322350, 086-4304202
ผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดสามารถนำภาพไปอัดขยายให้เป็นขนาด 8*12 นิ้ว ได้คนละไม่เกิน 2 รูป ที่ร้านภาพงาม
ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการจัดโครงการประกวดฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สถานที่ส่งผลงาน
มูลนิธิโยนก อาคารโจ-เบซซี่ แบคซ์เตอร์ มหาวิทยาลัยโยนก
444/1 ถนนวชิราวุธดำเนิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
ชมรมถ่ายภาพนครลำปาง สำนักงานหนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์
341 สามแยกลำปางเวียงทอง ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
ร้านภาพงาม เลขที่ 145 ถ.บุญวาทย์ ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
โทร. 054-322350, 086-4304202
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
มูลนิธิโยนก หมายเลขโทรศัพท์ 0-5426-5175 ต่อ 205, 054-315801
หรือ 086-9238946, 089-7006138
www.yonokfoundation.org/photocontest
ชมรมถ่ายภาพนครลำปาง หมายเลขโทรศัพท์ 081-9609616
www.lampangphotoclub.com
ร้านภาพงาม หมายเลขโทรศัพท์ 054-322350, 086-4304202
www.cheesecamera.net
ประกาศ ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553
(ดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ)
กรรมการผู้อำนวยการมูลนิธิโยนก
โครงการประกวดภาพถ่ายและภาพจิตรกรรม ในหัวข้อ “การศึกษาไทย” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
หลักการและเหตุผล
การศึกษาในประเทศไทยเริ่มนับตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย เพื่อใช้สำหรับการศึกษา เรียนรู้ เป็นการจัดการศึกษาโดยบ้าน วัด วัง สำนักราชบัณฑิต เน้นวิชาความรู้ด้านอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ไสยศาสตร์ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ เวชศาสตร์ ตำราพิชัยสงคราม วิชาชีพช่างต่างๆ วิชาแม่บ้านและการศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เมื่อมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช การศึกษายังมีรูปแบบคล้าย กรุงสุโขทัย มีความเจริญรุ่งเรือง มีการเปิดรับวิชาความรู้ ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆอย่างหลากหลาย ทั้งภาษาไทย บาลี สันสกฤต ฝรั่งเศส เขมร พม่า จีน มีหนังสือ “จินดามณี” เป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทย และมีโรงเรียนมิชชันนารี ถ่ายทอดความรู้วิชาการและวัฒนธรรมตะวันตก ครั้งถึงสมัยกรุงธนบุรี เป็นช่วงของการฟื้นฟูประเทศและการสร้างเมืองหลวงใหม่ การศึกษาจึงเน้นในเรื่องการฟื้นฟูทำนุบำรุงศาสนา มีการรวบรวมตำรายาต่างๆ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงฟื้นฟูศิลปะ เช่น นาฏศิลป์ การแสดงละคร ด้านอักษรศาสตร์ ทรงนิพนธ์วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ รวมทั้งส่งเสริมด้านพละศึกษาและการฝึกอาวุธเพื่อป้องกันตัวและป้องกันบ้านเมือง การศึกษาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วัดและบ้านยังเป็นสถานที่สำคัญในการให้การศึกษา รัฐและราชสำนักทำหน้าที่ควบคุมให้ความอุปถัมภ์ด้านการศึกษา มีพระเป็นครู เรียนวิชาหนังสือ เลขไทยโบราณ ปฏิสังขรณ์วัดพระ เชตุพนให้เป็นแหล่งรวมสรรพตำรา และมิชชันนารีเข้ามาพร้อมด้วยวิทยาการใหม่ๆ ทำให้การศึกษาไทยเริ่มตื่นตัวที่จะเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมตะวันตกมากยิ่งขึ้น การศึกษาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนกลาง มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการปรับตัวกับชาวตะวันตก โดยรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขยายการศึกษาให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง ทรงตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังและสำหรับราษฎร และตั้งโรงเรียนมูลศึกษาทั้งในกรุงและหัวเมืองทั่วไป ทรงตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีพระราชบัญญัติประถมศึกษาพุทธศักราช 2464 เป็นฉบับแรก ส่งผลให้มีการตั้งโรงเรียนประชาบาลทั่วประเทศ และทรงตั้งกระทรวงธรรมการต่อมาเปลี่ยนเป็นกระทรวงศึกษาธิการเพื่อดูแลการศึกษา ศาสนา และการพยาบาล การศึกษาไทยได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยลำดับถึงปัจจุบัน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษา และทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการศึกษามาโดยตลอด และมีการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่โดยในปี 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศให้ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเป็นกฎหมายการศึกษาฉบับแรกของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาคนบนพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ ที่เชื่อมโยงสถาบันครอบครัว สถาบันศาสนา และสถาบันการศึกษาเข้าด้วยกันบนความเท่าเทียมและเสมอภาคในการเข้ารับการศึกษาของคนไทยทุกคนให้มีความรู้คู่คุณธรรมและจริยธรรมอันดีงาม จัดหลักสูตรการเรียนการสอนด้วยความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับผู้เรียนทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และในปี 2552 ประเทศไทยมีนโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง มีกรอบแนวทางการปฏิรูปการศึกษา 4 ประการ คือ พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ และพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่ เพื่อมุ่งเน้นให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพอย่างแท้จริง สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จึงจัดทำโครงการประกวดภาพถ่ายและภาพจิตรกรรม ในหัวข้อ “การศึกษาไทย” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมเสนอแนวความคิด ประสบการณ์ และมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาไทย โดยใช้ภาพถ่ายและภาพจิตรกรรม บรรยายบอกเล่าความรู้สึก ดังคำกล่าวที่ว่า “ภาพหนึ่งภาพแทนคำล้านคำ” สามารถสื่อความหมายได้กว้างไกล ไร้ขอบเขตทางความคิด เกิดความหลากหลายในการสร้างสรรค์ จึงนับเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนการศึกษาไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา และส่งผลถึงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมเสนอแนวคิด ประสบการณ์ และมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาไทย ผ่านภาพถ่ายและภาพจิตรกรรม เพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองไปสู่เป้าหมายได้อย่างดียิ่ง โดยเน้นในเรื่อง การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ การพัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ และการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่
กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป
ประเภทของภาพถ่าย เงื่อนไขข้อกำหนดในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด เป็นผลงานภาพถ่ายในหัวข้อ “การศึกษาไทย” ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนถึงการศึกษาของไทย ในมุมมองของผู้ส่งเข้าประกวด เป็นผลงานที่ถ่ายภาพด้วยกล้องบรรจุฟิล์มหรือกล้องดิจิตอล เท่านั้น ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีขนาดภาพ 12 x 18 นิ้ว ติดบนกระดาษแข็งสีขาว ขนาด 16 x 22 นิ้ว เพียงขนาดเดียวเท่านั้น พร้อมทั้งส่งฟิล์มหรือไฟล์ภาพที่บันทึกลงแผ่นซีดี/ดีวีดี มาพร้อมภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายผ่านกล้อง ซึ่งไม่ผ่านการปรับแต่งจากคอมพิวเตอร์ และต้องไม่เคยได้รับรางวัลหรือตีพิมพ์มาก่อน ส่งผลงานได้ไม่เกิน 5 ภาพ และต้องเป็นภาพที่ถ่ายด้วยตนเอง ห้ามมิให้ส่งผลงานในนามผู้อื่น หากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาตรวจพบว่านำผลงานของผู้อื่นมาแอบอ้าง จะตัดสิทธิ์รางวัลที่ได้รับทันที ผู้ส่งผลงานต้องอธิบายแนวคิดภาพผลงานโดยสังเขป และชื่อผลงานซึ่งมีความยาวไม่เกิน 20 พยางค์ พร้อมกรอกแบบฟอร์มกำกับผลงานที่กำหนดให้ชัดเจน 1 ภาพ/ 1 ใบ ได้แก่ อุปกรณ์การถ่ายภาพ เทคนิค สถานที่ และแนวคิด เขียนไว้ที่กระดาษแข็งสีขาวด้านหลังภาพที่ส่งเข้าประกวด ผู้ส่งผลงานต้องรับผิดชอบ หากผลงานนั้นละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิ์อื่นใดของบุคคลอื่น ผลงานที่ผ่านเข้ารอบและได้รับรางวัลทุกชิ้นถือเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ผลการตัดสินของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาถือเป็นที่สุด จะอุทธรณ์มิได้ และสำหรับผลงานที่ไม่ได้รับรางวัลสามารถมาขอรับภาพคืนได้ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ภายในเดือนกันยายน 2553 หากไม่มารับในเวลาที่กำหนดถือว่าท่านสละสิทธิ์
ประเภทภาพจิตรกรรม เงื่อนไขข้อกำหนดในการส่งผลงานประเภทภาพจิตรกรรม เป็นผลงานจิตรกรรมไม่จำกัดรูปแบบและเทคนิคในหัวข้อ “การศึกษาไทย” ผลงานต้องมีขนาด 100 ซม. x 120 ซม. โดยประมาณ เป็นแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ (ไม่รวมกรอบ) ส่งผลงานได้ไม่เกินคนละ 3 ภาพ ต้องเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ใหม่ด้วยตนเองและไม่เคยส่งเข้า ประกวดหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนมาก่อน 4. ผู้ส่งผลงานต้องกรอกแบบฟอร์มกำกับผลงานที่กำหนดให้อย่างชัดเจน พร้อมอธิบายแนวคิดของ ผลงานที่สร้างสรรค์โดยสังเขป 5. ผู้ส่งผลงานต้องรับผิดชอบ หากผลงานนั้นละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิ์อื่นใดของบุคคลอื่น 6. ผลงานที่ส่งเข้าประกวดทุกชิ้นสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา มีสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ในสื่อ สิ่งพิมพ์และสื่อสารสนเทศสมัยใหม่ได้ทุกรูปแบบ 7. ผลงานที่ได้รับรางวัลทุกรางวัลเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 8. ผลการตัดสินของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาถือเป็นที่สุด จะอุทธรณ์มิได้ และสำหรับผลงานที่ ไม่ได้รับรางวัลสามารถขอรับคืนได้ที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาภายในเดือนกันยายน 2553 หากไม่มารับตามที่กำหนดถือว่าท่านสละสิทธิ์ 9. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จะรับผิดชอบผลงานที่ส่งเข้าประกวดอย่างดีที่สุด ยกเว้นความ เสียหายอันเกิดจากเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ
เงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 315,000 บาท (สามแสนหนึ่งหมื่นห้าพันบาท) ดังนี้ รางวัลการประกวดภาพถ่ายหัวข้อ “การศึกษาไทย” แบ่งออกเป็น 13 รางวัล ดังนี้ รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30,000 บาท รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 15,000 บาท รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 10,000 บาท รางวัลชมเชย 10 รางวัล ๆ ละ 5,000 บาท รางวัลการประกวดภาพจิตรกรรมหัวข้อ “การศึกษาไทย” แบ่งออกเป็น 13 รางวัล ดังนี้ รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 35,000 บาท รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 25,000 บาท รางวัลชมเชย 10 รางวัล ๆ ละ 10,000 บาท (หมายเหตุ : มูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยสนับสนุนรางวัลชมเชยภาพจิตรกรรม จำนวน 50,000 บาท)
สถานที่ส่งผลงาน ผู้สนใจสามารถส่งผลงานและใบสมัคร (ขาดอย่างหนึ่งอย่างใด สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ขอสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณา) มาได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 99/20 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 วงเล็บมุมซอง การประกวดภาพถ่ายหรือภาพจิตรกรรมหัวข้อ “การศึกษาไทย”
หมดเขตรับผลงาน ระยะเวลาส่งภาพถ่ายและภาพจิตรกรรมเข้าประกวด ทางไปรษณีย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2553 โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณียากร ต้นทาง ส่งผลงานด้วยตนเองระหว่างวันที่ 15 – 30 มิถุนายน 2553 กรณีที่มาส่งด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาส่งแทน โดยจะต้องมาส่งในวันและเวลาราชการ ณ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 99/20 ถ.สุโขทัย แขวง/เขตดุสิต กรุงเทพฯ
ประกาศผลการประกวด ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลการประกวดภาพถ่ายและภาพจิตรกรรมหัวข้อ “การศึกษาไทย” ทางเว็บไซต์ www.onec.go.th ภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 (ผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับการติดต่อจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา) จัดการแถลงข่าวและพิธีมอบรางวัลในวันพุธที่ 18 สิงหาคม 2553 พร้อมจัดนิทรรศการแสดงผลงาน ที่ได้รับรางวัล และผลงานเข้ารอบสุดท้าย ตั้งแต่วันที่ 18 – 29 สิงหาคม 2553 ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ข้อมูลเพิ่มเติม ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.onec.go.th สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์หมายเลข 02-668-7123 ต่อ 1116-7 ในวันและเวลาราชการ
ผู้รับผิดชอบโครงการ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยนโยบายและวางแผนการศึกษาของชาติ เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายทั้งนักเรียน นิสิต/นักศึกษา ครู/อาจารย์ และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมเสนอแนวคิดมุมมองและสร้างสรรค์ผลงานของตนที่มีต่อการศึกษาไทยผ่านภาพถ่ายและภาพจิตรกรรม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้สังคมทุกภาคส่วนเกิดความตระหนัก และเห็นความสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองไปสู่เป้าหมายได้อย่างดียิ่ง
คณะกรรมการประกวดภาพถ่าย
ประธาน อ.ยรรยง โอฬาระชิน ศิลปินแห่งชาติปี 2550
รองประธาน นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขา สกศ.
กรรมการ มรว.จักรรถ จิตรพงศ์ ศาสตราภิชานแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ทินกร กาษรสุวรรณ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร
คุณพชร วงศ์สินหลั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ
คุณดวงดาว สุวรรณรังสี กรรมการบริหารนิตยสาร Nature Explorer
กรรมการและเลขานุการ นางอัมพร พงษ์กังสนานันท์ สกศ.
กรรมการและผู้ช่วยเลขาฯ นายรวิช ตาแก้ว สกศ.
กรรมการและผู้ช่วยเลขาฯ นายสุภสิทธิ์ ภูภักดี สกศ.
------------------------------------------------------------------------------------------
คณะกรรมการประกวดภาพจิตรกรรม
ประธาน ศ.เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ ศิลปินแห่งชาติปี 2549
รองประธาน นางสาวสุทธาสินี วัชรบูล รองเลขา สกศ.
กรรมการ ศ.วิโชค มุกดามณี ภาควิชาจิตกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร
รศ.ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ นักวิชาการอิสระ
รศ.กมล เผ่าสวัสดิ์ คณะศิลปะกรรมศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ.อรอนงค์ กลิ่นศิริ คณะศิลปะวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
กรรมการและเลขานุการ นางอัมพร พงษ์กังสนานันท์ สกศ.
กรรมการและผู้ช่วยเลขาฯ นายรวิช ตาแก้ว สกศ.
กรรมการและผู้ช่วยเลขาฯ นายสุภสิทธิ์ ภูภักดี สกศ.
“มาลี” รุกกิจกรรมออนไลน์ ขยายฐานผู้บริโภคเจาะกลุ่มวัยรุ่น ประกวดภาพฯ ชิง มือถือสุดฮิป!
นางสาวรุจิรพร ตั้งประพันธ์วงศ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพแบรนด์ “มาลี” เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นทำกิจกรรมการตลาด ประชาสัมพันธ์ และโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอล หรือเว็บไซต์ให้มากขึ้น เนื่องจากได้เล็งเห็นว่าสื่อประเภทดิจิตอลนั้นมีศักยภาพสูง เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ปัจจุบันมีผู้ที่เข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวัยรุ่นที่มีความทันสมัย มีความเป็นตัวเองสูง นิยมใช้สื่อออนไลน์ในชีวิตประจำวัน
กิจกรรมบนสื่อออนไลน์ในครั้งนี้ มาลีฯ ได้ร่วมกับเว็บไซต์สนุกดอทคอม (www.sanook.com) ภายใต้คอลัมภ์ผู้หญิงสุขภาพ โดยมีการอัพเดทข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ที่ให้ทั้งความรู้ และความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักผลิตภัณฑ์ตรามาลีมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการปรับภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ดูทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมบนเว็บไซต์ได้ตลอด เพียงคุณคลิ๊กที่ http://activity.sanook.com/maleeclub ก็จะได้สนุก สดชื่นแบบสุขภาพดีไปกับมาลี ล่าสุดทางมาลีฯ ได้จัดแคมเปญ “Enjoy Life Enjoy Love With Malee” ขึ้น เพื่อประกวดภาพถ่ายภายใต้คอนเซปต์ “คู่รักสดชื่นสุขภาพดี กับน้ำผลไม้มาลี” ลุ้นรับ ซัมซุง แคนดี้ (Sumsung Candy) โดนๆ ไปใช้แบบแพ็คคู่ พร้อมของรางวัลอีกมากมายจากน้ำผลไม้มาลีฯ
ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ กล่าวอีกว่า ท่านสามารถร่วมสนุกด้วยกติกาง่ายๆ โดยการส่งภาพคู่ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก คู่ซี้ คู่พี่น้อง คู่สนิท คู่เหมือน คู่แม่ลูก คู่ห่วงใย คู่ควง ฯลฯ เข้าร่วมประกวดกับแคมเปญฯ นี้ได้ เพียงถ่ายภาพคู่ของคุณกับผลิตภัณฑ์มาลีชนิดใดขนาดใดก็ได้แบบโดนใจ พร้อมคำบรรยายไอเดียห่วงใยแบบโดนๆ ตามคอนเซปต์ “คู่รักสดชื่นสุขภาพดี กับน้ำผลไม้มาลี” สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://activity.sanook.com/maleeclub สนใจเข้าร่วมประกวดได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคมศกนี้ ทุกภาพจะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมโหวตกันในเว็บไซต์ http://activity.sanook.com/maleeclub และจะประกาศรายชื่อผู้ชนะเลิศในวันที่ 31 มีนาคมศกนี้
นอกจากกิจกรรมบนโลกออนไลน์นี้ มาลียังได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ อาทิ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บสนุกดอทคอม Facebook หรือ Twitter เป็นต้น ทุกท่านสามารถรับข้อมูลข่าวสาร และร่วมกิจกรรมอื่นๆ ของมาลีได้อย่างต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ malee.co.th หรือ http://activity.sanook.com/maleeclub อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้มีสื่อออนไลน์พร้อมชูภาพลักษณ์ของ “มาลีใส่ใจสุขภาพ” ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ด้วย และยังได้เปิดคลับคนรักสุขภาพหรือเว็บบอร์ดพูดคุยเรื่องสุขภาพ และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำเสนอเคล็ดลับดูแลตัวเองในแง่มุมต่างๆ มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติ พร้อมกระตุ้นให้คนไทยหันมาใส่ใจดูแลตัวเองด้วยสิ่งดีๆ จากผลิตภัณฑ์ตรามาลี รวมถึงยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ด้านความห่วงใย และผลิตภัณฑ์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพอีกด้วย
“บริษัทฯ คาดว่ากิจกรรมนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมช่วยขยายฐานกลุ่มผู้บริโภค และสร้างภาพลักษณ์มาลีให้ดูทันสมัยขึ้น เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งตรงกับนโยบายการตลาดของปีนี้ที่มุ่งสร้างภาพลักษณ์ของมาลีให้เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสุขภาพและเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง” ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์กล่าวทิ้งท้าย
ประกวดภาพถ่ายงานประเพณีบุญผะเหวด จ.ร้อยเอ็ด
แจ้งข่าว // ยังไม่มีการประกวดภาพนก ทะเลน้อย
เมื่อ 21 ก.พ. 2553 เวลาประมาณ 08.30 น.
ได้ความโดยสรุปว่า.........................
รายละเอียดที่เราพบเห็นกันนั้นเป็นเพียงแบบร่างของโครงการที่ยังไม่ได้ประกาศออกสู่สาธารณะ
ที่ยังไม่มีการระบุวันเวลาที่แน่นอนของรายละเอียดดังกล่าว
แต่มีผู้เอาขึ้นมาเผยแพร่กันก่อน...และทำให้มีการโทรศัพท์ /เข้าไปสอบถามกัน
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายถึงการรับรู้ข่าวสารทีู่้ไม่ตรงกันในขณะนี้เป็นจำนวนมาก
ที่เขตห้ามล่าฯ ต้องการในขณะนี้คือ................................................
จัดนิทรรศการภาพนกในทะเลน้อย ที่เปิดโอกาสในผู้ถ่ายภาพนกมอบภาพให้ี่เขตห้ามล่าฯ
จำนวนประมาณ 50 - 60 ภาพ โดยจะจัดนิทรรศการขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
พร้อมๆ กับมีเทศกาลล่องเรือแลนกทะเลน้อย ที่มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี ไปด้วยกัน
นักถ่ายภาพท่านใดที่มีภาพนกสวยๆ (ยกเว้นภาพน้องนก) ต้องการมอบให้เขตห้ามล่าฯ
ก็ขอเชิญมอบเพื่อนิทรรศการได้ และท่านที่ต้องการถ่ายภาพนกก็ขอเชิญในช่วงเทศกาลได้
ส่วนการประกวดภาพถ่ายนั้นขอให้รอติดตามรายละเอียดซึ่งจะประกาศให้ทราบ (ไม่ยืนยันกำหนดการ)
ผมเลยรับอาสาเข้ามาโพสต์ให้สมาชิกได้เข้าใจตรงกันด้วยครับ


















